วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2561

ลงทุนในเหรียญสกุลเงินดิจิตอลทางไหนได้บ้าง แบบง่ายๆ?

ไหนๆ ปีที่แล้ว พลได้ลองเข้าสู่โลกของการลงทุนในเหรียญสกุลเงินดิจิตอล เพราะการชักชวนของเพื่อนสนิทที่ไปทำงานที่ญี่ปุ่น เลยอยากแชร์เรื่องดีๆ เลวๆ ฮาๆ ที่ได้ผ่านมาในส่วนนี้

สกุลเงินดิจิตอล กับผลกระทบในชีวิตประจำวัน

ปกติเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในโลกของเรา จะมีผลกระทบกับชีวิตเราในอย่างน้อยหนึ่งด้าน
และนั่นทำให้มันมีคุณค่า หรือมูลค่าขึ้นมา
ซึ่งเจ้าเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนสกุลเงินดิจิตอล เนี่ยเรียกว่า Blockchain
แต่ที่เขาซื้อๆ ขายๆ นี่เรียกว่า Crypto Currencies หรือ สกุลเงินดิจิตอล
และมันกำลังเข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตประจำวันของเราทั้งทางตรง และทางอ้อม
  • ทางตรง คือ การซื้อขาย ที่เราเห็นออกสื่อ และเห็นลุงตู่พูดในข่าว ไม่ใช่แค่เมืองไทย พูดกันทั่วทั้งในและต่างประเทศ
  • ทางอ้อม คือ มันกำลังเปลี่ยนแปลงกลไกเศรษฐกิจโลกไปทีละน้อย
ในส่วนนี้ เอาเป็นว่าพูดถึงการลงทุนละกัน

เราลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลทางไหนได้บ้าง?

เงินเราออกจากกระเป๋า ไปลงทุน ก็ต้องอยากรู้ว่าเงินกลับมายังไง จะเพิ่มมากน้อยแค่ไหน ด้วยวิธีใดเนอะ
ไล่ตามที่พลเจอมา มีดังนี้

1. ซื้อขายในตลาด

อันนี้น่าจะใกล้ตัวที่สุดแล้ว
เพราะมันคือการซื้อขายเงินดิจิตอล
คล้ายๆ กับการเก็งกำไร ในรูปแบบต่างๆ เช่นทอง หรือสกุลเงิน Forex
ใครเคยเล่นเกมส์ออนไลน์ มันจะมีการหาของ ทำของมา แล้วขายกันในเกมส์ มองแบบนั้นก็ได้ ราคาของจะขึ้นอยู่กับความหายาก หรือความเทพใช่ไหม
เหรียญพวกนี้ ก็มีปัจจัยที่ราคาขึ้นลงเหมือนกัน
ปัจจุบันมีตลาดเทรดซื้อขายเหรียญพวกนี้ทั้งใน และต่างประเทศ เช่น ในไทยก็มี bx.in.th ที่มาเจ้าแรก และพลก็เข้าไปที่นี่ไม่น้อย
สนใจ สมัครผ่าน refer ของพลได้ เพื่อเป็นการสนับสนุนข้าวปลาอาหาร ให้พลมาแชร์เรื่องดีๆ แบบนี้เรื่อยๆ (บอกกันตรงๆ ไม่หมกเม็ดเลยนะเออ)
พวกเทคนิค หรือข้อสังเกตต่างๆ ในส่วนข้อนี้เดี๋ยวจะมาแชร์ คุยกันในตอนต่อๆ ไป
สนใจติดตามผ่านช่องทางด้านล่างนี้ได้นะครับ

2. ลงทุนซื้อเครื่องมาขุด

ช่วงนี้บางคนอาจจะเริ่มสังเกต เพื่อนพี่น้องฝ่ายไอที (และไม่ไอที) ถ่ายภาพเครื่องคอมพิวเตอร์หน้าตาแปลกประหลาด
พร้อมกับบอกว่า “ขุดเหรียญ”, “ทำเหมือง” อะไรพวกนี้
สิ่งที่เขาทำคือการลงทุนในจักรวาลแห่งสกุลเงินดิจิตอลครับ
กลไกของระบบสกุลเงินดิจิตอล จะมีส่วนหนึ่งที่ต้องอาศัยพลังของคอมพิวเตอร์ช่วยคำนวน และเราสามารถเอาคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกับระบบพวกนี้ เพื่อให้ช่วยคำนวนได้
และแน่นอน คอมพิวเตอร์มีเร็วมีช้า เครื่องต่างกัน ก็คำนวนได้เร็ว ได้ช้าต่างกัน
ค่าตอบแทนจากการลงทุนซื้อคอม + ค่าไฟ นี้
คือเหรียญสกุลเงินดิจิตอล ที่เอาไปซื้อขายได้ในข้อ 1

3. พัฒนาระบบที่ต่อยอดจากเทคโนโลยีพวกนี้

สกุลเงินดิจิตอล หรือ Crypto Currencies นั้น ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Blockchain เป็นหลัก
ถ้าเปรียบเงินดิจิตอลเป็นหินที่อยู่ตามชายหาด Blockchain นี่คือแกนกลางของโลกเราเลยล่ะ
ซึ่งจริงๆ Blockchain ก็ไม่ได้เอามาใช้ทำเงินดิจิตอลอย่างเดียว เอาไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ก็ได้ เช่น
ซึ่งหากมีทักษะพอ ก็สามารถเอา Blockchain มาพัฒนาระบบในอุตสาหกรรมของเราเองได้อีก

สรุป

จะเห็นว่า Blockchain และสกุลเงินดิจิตอลนั้น กำลังเข้ามาเปลี่ยนหลายๆ อย่างในชีวิตเรา ทั้งด้านที่เห็นเด่นชัด และด้านที่เราอาจจะไม่รู้ตัว
การลงทุนในสกุลเงินดิจิตัล รวมถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องนั้น จึงมี 3 รูปแบบใหญ่ๆ
โดย 2 แบบแรก จะใกล้ตัวเราหน่อย คือการเทรดซื้อขาย และการซื้อคอมมาขุด
แบบที่ 3 ก็ได้ทั้งระดับคนทั่วไป จนไปถึงระดับโลก

Forex (Foreign Exchange) คือ ตลาดที่ทำการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยราคานั้นจะแปรผันตาม demand และ supply ของแต่ละสกุลเงิน ซึ่งทั้งนี้อาจจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน ราคาทองคำ สภาพเศรษฐกิจ สถานการณ์บ้านเมือง เหตุการณ์ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการประกาศตัวเลขสำคัญ ๆ ของแต่ละประเทศ เช่น อัตราการว่างงาน เป็นต้น เรียกได้ว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรามีความอ่อนไหวต่อปัจจัยรอบข้างค่อนข้างมากเลยครับ


การซื้อขายเงินสกุลใหญ่ ๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD), ยูโร (EUR), ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP), เยน (JPY) จะมีสภาพคล่องสูงมาก เนื่องจากมีผู้เล่นจำนวนมากและมีการเปลี่ยนแปลงของราคาตลอดเวลา ในอดีต ผู้เล่นในตลาด Forex จะจำกัดอยู่ในกลุ่มสถาบันการเงินใหญ่ ๆ เช่น ธนาคาร หรือบริษัทประกัน แต่ในปัจจุบัน ด้วยการเข้ามาของระบบการเทรดออนไลน์ นักลงทุนรายย่อยอย่างพวกเรา ก็สามารถเข้ามาลงทุนผ่านระบบการเทรดออนไลน์ของบริษัทโบรกเกอร์ ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งคำสั่งซื้อ/ขายไปยังตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศทันทีที่ได้รับคำสั่ง

เราสามารถสรุปลักษณะเด่นของตลาด Forex ได้ดังต่อไปนี้ครับ


  • เป็นตลาดการเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เปิดทำการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ การซื้อขายเริ่มตั้งแต่ตลาดเปิดทำการตอนเช้าในออสเตรเลีย เอเชีย ยุโรปและจนจบวันทำการของอเมริกา
  • มีสภาพคล่องสูง เพราะมีคนซื้อ และคนขายจำนวนมาก ทำให้ปริมาณการซื้อขายสูงมากเมื่อเทียบกับการลงทุนแบบอื่น ๆ
  • มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรามีความอ่อนไหวมากต่อปัจจัยรอบตัว ซึ่งนับได้ว่าเป็นโอกาสที่จะใช้ทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกัน ก็อาจจะขาดทุนได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
  • ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ในหนึ่งคู่สกุลเงิน นักลงทุนสามารถเปิดได้ทั้งสถานะซื้อ หรือขาย โดยเปิดสถานะซื้อหากคาดการณ์ว่าราคาจะสูงขึ้น และเปิดสถานะขายหากคาดว่าราคาจะลดลง
  • ใช้เงินลงทุนต่ำ แต่สามารถสร้างกำไรได้สูงด้วย leverage แต่ในทางตรงข้าม leverage ก็ทำให้ขาดทุนได้สูงมากเช่นกัน
  • ค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำ เมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น มีหลายโบรกเกอร์ไม่คิดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย แต่จะคิดค่าบริการจากส่วนต่างราคา bid / ask หรือที่เรียกว่า spread โดยคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากจะมี spread แคบ
โดยการซื้อขาย Forex จะแสดงในรูปคู่ของสกุลเงิน เช่น EUR/USD = 1.105965 หมายความว่า 1 Euro มีค่าเท่ากับ 1.105965 US Dollars การซื้อ EUR/USD จะหมายถึง การซื้อ EUR และขาย USD และในทางตรงกันข้าม การขาย EUR/USD หมายถึง การซื้อ USD และขาย EUR ตัวอย่างการซื้อขายคู่สกุลเงินที่สำคัญ ๆ ได้แก่ EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD, USD/CAD, USD/CHF, AUD/USD and NZD/USD

เช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้น เมื่อนักลงทุนในตลาด Forex เห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของคู่สกุลเงิน ก็นับเป็นโอกาสในการเข้าทำกำไร เช่น หากคาดการณ์ว่า ค่าเงิน EUR จะอ่อนลงเมื่อเทียบกับ USD นักลงทุนอาจจะสั่งขาย EUR/USD ณ ราคาปัจจุบัน โดยหากการคาดการณ์ของเราถูกต้อง และราคา EUR/USD ลดลง เราก็สามารถทำกำไรโดยการปิดสถานะการขาย ซึ่งกำไรที่ได้จะเป็นส่วนต่างของราคา คูณกับจำนวนหน่วยที่ซื้อ

มาดูตัวอย่างกันครับ จากการคาดการณ์ตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐที่มีแนวโน้มลดลง ซึ่งหมายความถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น น่าจะมีผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หรืออีกนัยหนึ่ง EUR/USD น่าจะมีค่าลดลง ดังนั้น เราจึงตัดสินใจเปิดสถานะขาย EUR/USD ที่ราคา bid 1.10288 จำนวน 10,000 หน่วย และด้วย leverage ที่ 50:1 ทำให้ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น คือ (1.10288 *10,000) / 50 = $220.576 (แทนที่จะต้องใช้เงิน $11,028.8) ซึ่งหากการคาดการณ์ถูกต้อง และ EUR/USD มีค่าลดลง เราสามารถปิดสถานะทันที เช่น ที่ราคา ask 1.09052 ในตัวอย่างนี้ เราสามารถทำกำไรได้ (1.10280-1.09052)*10,000 = $122.8

และด้วยลักษณะของ Forex ที่มีความเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรวดเร็ว มีสภาพคล่องสูง ทั้งยังสามารถใช้ leverage ทำให้สร้างกำไรได้สูงด้วยเงินลงทุนต่ำ จึงอาจกล่าวได้ว่า การลงทุนใน Forex เหมาะกับนักลงทุนขาซิ่งที่ชอบความเสี่ยงสูง เน้นทำกำไรในช่วงเวลาสั้น ๆ ตัดสินใจซื้อขายอย่างรวดเร็ว หากสนใจด้านการลงทุนแนวอื่น ๆ ผมขอแนะนำบทความดี ๆ อย่างเจาะโอกาสการลงทุนในยุคตลาดผันผวน ลองอ่านดูครับ คิดว่าน่าจะได้ไอเดียไปต่อยอดกันอีกเยอะเลย

Exness